วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

รู้หรือไม่? น้ำมะพร้าวช่วยแก้อาการเมาค้างได้

      
 กลับมาพบกันเป็นประจำทุกวันเช่นเคยกับเรื่องราวสาระดีๆ สำหรับบทความนี้เราขอขอจัดเอาเอาใจหนุ่มๆสายปาร์ตี้กันโดยเฉพาะเลย เพราะเราเชื่อว่าหลายคนเมื่อสนุกกับปาร์ตี้ทีไรมักยั้งใจไม่อยู่ ดื่มจนเพลิน จนไหล เเล้วความซวยก็จะมาเยือนในตอนเช้าของวันถัดไปเมื่อคุณพบว่าตัวเองลุกไม่ขึ้นมีอาการปวดหัวหนักมาก ทรมาณเหลือเกิน หิวน้ำมากเป็นพิเศษ พอจะลุกไปดื่มน้ำก็มีอาการบ้านหมุน อาการเเบบนี้เค้าเรียกว่าการเเฮงค์หรือเมาค้างครับ เเต่ข่าวดีคือวันนี้เรามีผู้ช่วยให้คุณดีขึ้นจากอาการเมาค้างตัวใหม่มาเเนะนำ ซึ่งก็คือ "น้ำมันมะพร้าว" ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับเเล้วว่าเป็นผู้ช่วยคนเมาค้างที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร หากเพื่อนๆอยากรู้ต้องมาดูคำตอบกันเลย
1. อาการเมาค้างเกิดจากอะไร ?
ก่อนที่เราจะไปดูว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยเราให้ดีขึ้นจากอาการเมาค้างได้อย่างไร เราควรมาเรียนรู้จักกันหน่อยดีกว่าว่าอาการเมาค้างเกิดขึ้นได้อย่างไร เเละหากเกิดขึ้นเเล้วจะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร
- แอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปเป็นจำนวนมากในปาร์ตี้เเต่ละครั้งจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำออกมาเป็นจำนวนมากผ่านการปัสสาว
- เเต่สิ่งที่ออกมากับปัสสาวะนั้นไม่ได้มีเเต่น้ำเท่านั้น เเต่ยังมีเเร่ธาตุต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายถูกขับออกมาด้วยเช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 โพเเทสเซียม เเละเเมกนิเซียม เป็นต้น
- การที่ร่างการขาดน้ำทำให้เซลล์สมองของเราเหี่ยวลง ประกอบกับสูญเสียเเร่ธาตุที่จำเป็นทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนเป็นไข้ ไม่สบาย มีอาการปวดหัวรุนเเรง
- เเละสารที่เป็นพระเอกที่ทำให้เกิดอาการเมาค้างจริงๆก็คือ สารเเอลดีไฮด์ (Aldehyde) ซึ่งสารตัวนี้เกิดขึ้นจากผลการการที่ตับพยายามที่จะกำจัดพิษจากเเอลกอฮอล์
- เเอลดีไฮด์เป็นสารพิษที่มีพิษภายต่อร่างกายของเราหลายอย่าง โดยมันจะเข้าไปทำลายสมองเเละระบบประสาท ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เเละรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin)
- กว่าที่ร่างกายของเราจะฟื้นตัวจากอาการเมาค้างได้ต้องใช้เวลาอยู่ในช่วง 8-24 ชั่วโมง
2. น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ร่างกายเราฟื้นจากเมาค้างได้อย่างไร?
เเม้ว่าเราจะมีตัวเลือกที่จะมาเป็นตัวช่วยสำหรับเราหลายอย่างเมื่อเกิดอาการเมาค้าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มอิเล็คโตรไลท์ เเต่ปัจจุบันสิ่งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดก็คือ "น้ำมันมะพร้าว" ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะในน้ำมันมะพร้าวมีกลิ่นหอม สามารถทำให้ร่างกายของเรารู้สึกตื่นตัวสดชื่นขึ้นได้ เเละที่สำคัญที่สุดคือในน้ำมันมะพร้าวจะมีสารอิเล็กโตรไลท์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าเครื่องดื่มอิเล็คโตรไลท์ซะอีก
3. อิเล็คโตรไลท์มีความเกี่ยวข้องกับการเมาค้างอย่างไร?
เมาเกิดอาการเมาค้าง การชดเชยน้ำที่สูญเสียไปด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะร่างกายเราเสียเเร่ธาตุที่เป็นสารอิเล็คโตรไลท์จำเป็นของร่างกายอย่างเเมกนิเซียม เเละโพเเทสเซียมไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายของเราเสียสมดุลอิเล็คโตรไลท์ เซลล์ในร่างกายจึงไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติเนื่องจากขาดสมดุลระหว่างน้ำกับเกลือเเร่ทำให้เซลล์อยู่ในสภาวะมึนงงนั่นเอง การเติมเกลือจากตัวช่วยที่อุดมไปสารอิเล็คโตรไลท์อย่างน้ำมันมะพร้าวจะช่วยดึงสมดุลระหว่างน้ำกับเกลือในร่างกายให้กลับคืนมา เซลล์ของเราจึงจะกลับมาเดินเครื่องทำงานได้เป็นปกตินั่นเอง
ขอบคุณที่มา:https://www.sanook.com/men/52213/

วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2560

บรรเทาอาการปวดหัว โดยไม่ต้องกินยา เพียงแค่กดตามจุด



ผู้เชี่ยวชาญเผยวิธี "บรรเทาอาการปวดหัว" โดยไม่ต้องกินยา เพียงแค่กดตามจุดเหล่านี้ !

    ขณะกำลังปวดหัว หลายคนคงหันมารับประทานยาแก้ปวดกันเป็นแถว แต่การรับประทานยานั้นมันสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ผลระยะยาวแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย วันนี้เราจึงมีวิธีการนวดกดจุดจากแพทย์แผนจีน ซึ่งใช้เวลาในการกดจุดเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็สามารถขจัดปัญหาไปได้อย่างหายห่วง


     ก่อนที่จะเริ่มนวดกดจุดนั้น คุณจำเป็นจะต้องอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย การกดจุดในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานมากเกินไป โดยการกดจุดในแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 30 วินาที - 1 นาทีต่อ1จุดก็พอแล้ว     หลังจากกดไปแล้ว 5-10 นาที อาการปวดหัวก็จะค่อยๆทุเลาลงตามลำดับ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าต้องกดตรงไหนบ้างนะ
 


    ▼ จุดหยินหยางการกดจุดนี้จะต้องกดตรงไปกลางหน้าผาก ตรงกลางระหว่างคิ้ว จุดนี้ช่วยให้เพิ่มความสมดุลในร่างกาย การหายใจ สมองปลอดโปร่ง และช่วยในเรื่องของความดัน



จุดจ่านจู กดลงไปตรงใต้หัวคิ้ว โดการกดจุดนี้ช่วยให้การทำงานของตับทำงานได้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้
 


     ▼จุดหยิงเซียง กดลงไปในตำแหน่งที่เว้นระยะมาจากปีกจมูกออกไปทั้งซ้ายและขวาให้ห่างออกไปอย่างละ 1 เซนติเมตร การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการจมูกอักเสบ,บรรเทาความเครียดและยังสามารถลดอาการปวดหัวและปวดฟันได้


จุดทานจู้จุดนี้ให้กดลงไประหว่างท้ายทอยตามภาพ จุดนี้ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก เมื่อยล้าตา ปวดหู และช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากไมเกรนได้
 


    ▼ จุดลวี่กู่ : จุดนี้ให้กดบริเวณด้านบนของหู โดยเว้นระยะมา 1.5 นิ้ว การกดจุดนี้มีส่วนช่วยบรรเทาในเรื่องอาการเมื่อยล้าทางสายตา อาการวิงเวียนหูอื้อ การอาเจียน และโรคกระเพาะได้ 

จุดเหอกู่ จุดนี้อยู่ที่ด้านหลังของมือ เป็นจุดที่อยู่ตรงกลางระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ การกดจุดนี้ช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง อาการปวดฟัน และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่คอได้



    การนวดกดจุดเหล่านี้อาจเห็นผลได้ในผู้ใช้บางรายเท่านั้น หากผู้มีอาการปวดตามส่วนต่างๆของร่างกายอาจจะต้องหันมาใส่ใจสุขภาพโดยการเลือกรับประทานอาหาร ควรลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พร้อมกับการออกกำลังกาย แล้วการนวดกดจุดก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น