วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2559

บอกลาผ้าขนหนูมีกลิ่นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ แค่มีเกลือหรือน้ำส้มสายชู

บอกลาผ้าขนหนูมีกลิ่นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ แค่มีเกลือหรือน้ำส้มสายชู



       เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยประสบกับปัญหา ผ้าขนหนูมีกลิ่น อันไม่พึ่งประสงค์อย่างแน่นอน วันนี้มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยขจัดปัญหาผ้าขนหนูมีกลิ่น ด้วยวิธีง่ายๆ แค่มี เกลือ หรือ น้ำส้มสายชูมาฝาก
       วิธีขจัดกลิ่นให้นำผ้าขนหนูที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ไปแช่ในน้ำร้อน ใส่เกลือลงไป 5 กรัม หรือจะใช้น้ำส้มสายชู 10 มิลลิลิตรใส่ลงไปก็ได้ หลังจากนั้นแช่ไว้ประมาณ 5 นาที แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด และตากให้แห้ง
 

   
     เท่านี้กลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากผ้าขนหนูก็จะหายไป ไม่ต้องทนกับกลิ่นอับของผ้าขนหนูเวลานำมาเช็ดตัวอีกต่อไป เป็นอย่างไรบ้างเคล็ดลับง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ 

วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2559

17 ประโยชน์ยอดเยี่ยมของการดื่มน้ำตั้งแต่ตื่นนอน ทำให้ได้ทุกวัน รับรองไม่ป่วย!

17 ประโยชน์ยอดเยี่ยมของการดื่มน้ำตั้งแต่ตื่นนอน ทำให้ได้ทุกวัน รับรองไม่ป่วย!


เป็นสิ่งที่บอกต่อกันมานานแล้ว สำหรับการดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอน ว่าสามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดี สดใส สดชื่น

ซึ่งหลายคนก็ทำตามและเห็นผลกันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ประโยชน์ของมันไม่ได้มีเพียงแค่นั้น มันยังมีประโยชน์อีกสารพัด ที่หลายคนไม่เคยรู้ อ่านด่วน แล้วคุณจะอยากดื่มน้ำทุกวัน

17 ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

1) การดื่มน้ำในตอนเช้าช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ผิวพรรณผ่องใส

2) การดื่มน้ำตอนท้องว่างจะช่วยเคลียร์ลำไส้ให้พร้อมต่อการดูดซับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

3) ช่วยในการปรับสมดุลของต่อมน้ำเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงในการอักเสบ

4) ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

5) การดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน ช่วยให้แผลพุพองหายได้เร็วขึ้น

6) ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับกระดูก เพราะน้ำช่วยพยุงการทำงานข้อข้อต่อและกระดูกทุกส่วนของร่างกาย

7) การดื่มน้ำมากๆจะช่วยขับไขมันออกมาจากร่างกาย ช่วยลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว

8) ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ สร้างกล้ามเนื้อ

9) ป้องกันโรคเกี่ยวกับลำคอ ปวดท้อง ปวดประจำเดือน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการปวดหัว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10) ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร และการเผาผลาญทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

11) ช่วยรักษาอาการท้องผูกได้อย่างดี เพียงแค่ดื่มน้ำตอนท้องว่าง

12) การดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน จะช่วยให้สารที่ก่อมะเร็งถูกชะล้างออกไป ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งลำไส้

13) เป็นการเติมน้ำให้สมอง ช่วยกระตุ้นการทำงานให้สมอง ช่วยเรื่องกระบวนความคิด ความจำ และสมาธิ

14) ผิวพรรณสวยผ่องใส ลดความเสี่ยงโรคผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน ฝ้า กระ และริ้วรอย

15) น้ำที่อยู่ในกระเพาะก่อนร่างกายจะรัลอาหาร จะเป็นตัวช่วยกรองสารเคมีและสารพิษที่ปะปนมาจากอาหาร

16) ช่วยรักษาโรคไต โรคนิ่ว หอบหืด และโรคอื่นๆอีกสารพัด

17) ช่วยลดความอยากอาหารได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

เห็นประโยชน์ร้อยแปดของการดื่มน้ำในตอนเช้ารึยังล่ะ บอกเลยว่ามันมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเลยทีเดียว ลองทำให้ติดเป็นนิสัย รับรองว่าสุขภาพทั้งกายและจิตดีขึ้นแน่ๆ

อ้างอิง...kaijeaw.com

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เมื่อใดที่ไม่ควรออกกำลังกาย


เมื่อใดที่ไม่ควรออกกำลังกาย

เมื่อใดที่ไม่ควรออกกำลังกาย

หมอชาวบ้าน
สนับสนุนเนื้อหา
การออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอจะซาบซึ้งในความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี บางคนบอกว่าการออกกำลังกายเหมือนยาเสพติดชนิดหนึ่ง เพราะถ้าประพฤติปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรหรือเป็นนิสัยแล้ว หากไม่ได้ออกกำลังกายสักวันจะรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นเท่าที่ควร ซึ่งเป็นความจริง (เพราะร่างกายไม่ได้หลั่งสารสุข ‘เอนเดอร์ฟินส์' ออกมา)
อย่างไรก็ตาม แม้การออกกำลังกายจะมีผลดีต่อสุขภาพร่างกายมากมายนานัปการ แต่ก็มีหลายกรณีที่เราควรระมัดระวัง หรืองดออกกำลังชั่วคราว ในภาวะใดภาวะหนึ่งต่อไปนี้คือ
1. เจ็บป่วยไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นไข้หรือมีอาการอักเสบที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
2. หลังจากฟื้นไข้ใหม่ ๆ ที่ร่างกายอ่อนเพลียอยู่ หากออกกำลังกายในช่วงนี้ จะทำให้ร่างกายยิ่งอ่อนเพลียและหายช้า
3. หลังจากกินอาหารอิ่มใหม่ ๆ เพราจะทำให้เลือดในระบบไหลเวียนถูกแบ่งไปใช้ในการย่อยอาหาร เพราะฉะนั้นเลือดที่จะไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนที่ออกกำลังกายก็จะลดลง ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนสมรรถภาพ และเป็นตะคริวได้ง่าย
4. ช่วงอากาศร้อนและอบอ้าวมาก เพราะร่างกายจะสูญเสียเหงื่อและน้ำมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือเป็นลมหมดสติได้ (สำหรับผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแกร่งจริงอย่างนักกีฬา)
อาการที่บ่งบอกว่าควรหยุดออกกำลังกาย
ในบางกรณีที่ร่างกายอาจอ่อนแอลงไปชั่วคราว เช่น ภายหลังอาการท้องเสีย อดนอน การออกกำลังกายที่เคยทำอยู่ตามปกติอาจจะกลายเป็นหนักเกินไปได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากมีอาการดังกล่าวต่อไปนี้ แม้เพียงอาการเดียวหรือหลายอาการ ควรจะหยุดออกกำลังกายทันที นั่นคือ
1. รู้สึกเหนื่อยผิดปกติ
2. มีอาการใจเต้นผิดปกติ
3. อาการหายใจขัดหรือหายใจไม่ทั่วถึง
4. อาการเวียนศีรษะ
5. อาการคลื่นไส้
6. อาการหน้ามืด
7. ชีพจรเต้นเร็วกว่า 140 ครั้งต่อนาที (ในผู้สูงอายุ) หรือ 160 ครั้งต่อนาที (สำหรับหนุ่มสาว)
จำไว้ว่าหากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ต้องหยุดออกกำลังกายทันที และนั่งพักหรือนอนพักจนหายเหนื่อย และไม่ควรออกกำลังต่อไปอีกจนกว่าจะได้ไปพบแพทย์ หรือจนกว่าร่างกายจะมีสภาพแข็งแรงตามปกติ
ข้อมูลจาก
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 271
คอลัมน์: ออกกำลังกาย
นักเขียนหมอชาวบ้าน: ธารดาว ทองแก้ว